วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556

สูตรลดน้ำหนักเด็ดผอมภายใน 7 วัน ผอมเร็ว ไม่เชื่อต้องลอง

ไหนค่ะไหน !! ใครอยากผอมของเสียงหน่อยสิคร้าา !! แหมๆเกี้ยวกร้าวกันใหญ่เลยนะคะ แต่ความเป็นจริงการที่จะลดน้ำหนักได้แล้วมีหุ่นที่ดีนั้นไม่ใช่ทำกันได้ง่ายๆเลย ต้องเสียทั้งเหงือ ต้องใช้ความทุ่มเท และความพยายาม ต้องเอาจริงเอาจังเป็นอย่างมากกับการลดน้ำหนัก กว่าจะมีหุ่นที่ดูเซ็กซี่ได้ แต่กว่าจะถึงวันนั้นทุกวันนี้ก็คงไม่ต้องมานั่งกุมขมับทุกครั้งที่เห็นตัวเองในกระจกหรอกใช่ไหมล่ะ 

วันนี้สำหรับคนอยากผอมแบบเร็วๆจะได้เฮ เพราะเรามีเทคนิคสูตรเด็ดลดหุ่นดี ๆ แถมเป็นสูตรลดน้ำหนักเด็ดผอมภายใน 7 วัน รับรองว่าน้ำหนักลดชัวร์ เพียงแค่ทำตามวิธีที่แนะนำด้านล่างนี้

1. วันจันทร์ เตรียมตัว

          วันแรกของสัปดาห์ เป็นวันแห่งการเริ่มต้นการเรียน และการทำงาน แต่คราวนี้เราจะใช้วันจันทร์เป็นวันแห่งการเริ่มต้นปฏิวัติน้ำหนัก และไขมันส่วนเกินในร่างกายเราด้วย เริ่มแรกก็นั่งทบทวนตัวเองก่อน ว่าเรามีความพร้อมแค่ไหนที่จะลดน้ำหนัก มีความอดทนต่อขนมหวาน ไอศกรีม และอาหารเย็นมื้อหนักได้ไหม 

          แต่ถ้ายังลังเลให้นั่งไล่เรียงข้อดีของการลดน้ำหนัก ว่าถ้าผอมลงเราจะได้ทำอะไรบ้าง ข้อดีของการมีหุ่นดีคืออะไร นึกถึงเสื้อผ้าสวย ๆ ที่แขวนเก็บไว้ในตู้ แต่ไม่เคยได้ใส่ และข้อสำคัญต้องอย่าลืมคิดถึงข้อดีของอาหารเพื่อสุขภาพ ที่จะเป็นตัวช่วยให้เราลดน้ำหนักได้อย่างทันใจ และช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ จากนั้นก็ลงมือเคลียร์ขนมในลิ้นชักโต๊ะทำงานทิ้งให้หมด จะเอาไปแบ่งให้เพื่อนร่วมงานก็ได้ ตกเย็นก็อย่าลืมซื้อผลไม้ และอาหารเพื่อสุขภาพติดมือกลับไปด้วย เพื่อจะนำไปแช่ตู้เย็นแทนขนม และอาหารขยะที่เคยมี เป็นสัญญาณเริ่มต้นว่าการลดน้ำหนักอย่างเร่งด่วนได้เริ่มขึ้นแล้วนั่นเอง

2. วันอังคาร วางแผนชีวิตไดเอต

          วันที่ 2 ต้องเริ่มกำหนดเป้าหมายความสำเร็จ วางแผนว่าจะทำอะไรบ้างในแต่ละวัน เพื่อให้น้ำหนักลดลง แนะนำให้ใส่ตารางอาหารในแต่ละวันด้วยว่า ต้องกินผักให้ได้ 5 ชนิด และผลไม้อีก 3 ชนิด แบ่งตารางเวลาออกกำลังกายวันละ 45 นาทีด้วย โดยการออกกำลังกายก็สามารถทำได้หลายอย่าง เช่น เดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน หรือตีแบดมินตัน ส่วนตารางอาหารว่างควรจะเป็นธัญพืชไม่ขัดสี อัลมอนด์ หรือถั่ว การจัดตารางชีวิตในแต่ละวันของช่วงไดเอต จะช่วยบังคับคุณกลาย ๆ ให้มีความมุ่งมั่นในการพิชิตหุ่นสวยได้อย่างเต็มที่


3. วันพุธ ออกกำลังกายแบบจัดหนัก

          หลังจากควบคุมอาหารและเริ่มออกกำลังกายแบบเบา ๆ มาได้ 2 วัน กลางสัปดาห์อย่างวันพุธก็ควรจะเริ่มออกกำลังกายอย่างจริงจัง เทคนิคง่าย ๆ ที่เราอยากแนะนำก็คือ ให้คุณออกกำลังกายด้วยการวิ่งสลับกับการซิทอัพ หรือวิดพื้นก็ได้ตามแต่ถนัด ซึ่งก็หมายถึง ทุก ๆ 1 กิโลของการวิ่ง ให้คุณหยุดพักเพื่อซิทอัพ หรือวิดพื้นจำนวน 20 ครั้ง แต่ถ้าคุณวิ่งรอบสนาม จะลองกำหนดรอบวิ่งให้เท่ากับจำนวนน้ำหนักที่อยากลดก็ได้ เช่น หากอยากลดน้ำหนัก 4 กิโลกรัม ก็วิ่งรอบสนาม 4 รอบ การกำหนดเป้าหมายไว้ในหัวแบบนี้ จะช่วยให้คุณมีกำลังฮึดสู้ความเหนื่อยได้ง่าย ๆ ค่ะ


4. วันพฤหัสบดี ฤกษ์ดีชั่งน้ำหนัก

          ผ่านมา 4 วันของการไดเอตแบบเร่งด่วน ก็ได้เวลาเช็กความคืบหน้าว่าเราทำสำเร็จไปถึงไหนแล้ว โดยในตอนเช้าที่คุณตื่นนอน หลังจากทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำเรียบร้อย และในขณะที่ยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้า ให้ขึ้นชั่งน้ำหนักบนเครื่องชั่ง เพราะจะได้รู้น้ำหนักตัวสุทธิที่แท้จริงของตัวเอง 

          และเมื่อได้ชื่นชมกับตัวเลขบนหน้าปัดเครื่องชั่งเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปที่คุณต้องทำก็คือ นั่งทบทวนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ว่าเรายังเผลอทำพฤติกรรมที่ไม่ดีต่อสุขภาพอยู่บ้างหรือเปล่า เช่น ยังดื่มกาแฟในบางเช้า ขึ้นลิฟต์แทนการเดินขึ้น-ลงบันได เป็นต้น หากยังทำอยู่ ก็เปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ แล้วคุณจะพบว่า การเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ จะทำให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่กลับคืนมาอย่างคาดไม่ถึงเลยล่ะ


5. วันศุกร์ ออกกำลังกายหนักขึ้น

          ใกล้หมดเวลาที่กำหนดไว้เข้าไปทุกที ดังนั้นหากผลลัพธ์ที่ได้ยังไม่เป็นที่พอใจ ในวันนี้ให้คุณรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพแคลอรี่ต่ำทั้ง 3 มื้อ รวมถึงอาหารว่างระหว่างมื้อด้วย และเพิ่มการออกกำลังกายให้หนักขึ้น จากที่เคยออกกำลังกาย 45 นาที วันศุกร์สุดสัปดาห์แบบนี้ให้จัดเพิ่มเข้าไปเป็น 1 ชั่วโมงเลย เพื่อเร่งการเผาผลาญ และเบิร์นน้ำหนักส่วนเกินในร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น


6. วันเสาร์ เปลี่ยนบรรยากาศ

          วันหยุดทั้งทีถ้าจะให้มานั่งกินแต่อาหารเพื่อสุขภาพ และออกกำลังกายอย่างทุกวันก็อาจจะเบื่อจนหมดแรงบันดาลใจได้ ดังนั้นก็ออกเดินทางไปเปลี่ยนบรรยากาศกันบ้างดีกว่า เลือกสถานที่ใกล้ ๆ ที่คุณอยากไปก็ได้ อย่าง ทะเล หรือภูเขา และหากิจกรรมที่จะมีโอกาสได้ออกกำลังไปพร้อม ๆ กับได้เที่ยว และได้สนุกสนาน อาจจะเลือกปีนเขา วิ่งรอบชายหาด เล่นเซิร์ฟ หรืออะไรก็ได้ที่อยากทำ และอย่าลืมว่า ช่วงนี้งดน้ำอัดลม น้ำหวาน และอาหารขยะทุกชนิด กินได้แต่อาหารเพื่อสุขภาพนะจ๊ะ


7. วันอาทิตย์ การสิ้นสุดที่รอคอย

          และแล้วก็มาถึงวันสุดท้ายของการไดเอตแบบเร่งด่วนแล้ว วันนี้ให้คุณลองชั่งน้ำหนัก เช็กผลลัพธ์อีกครั้ง และยิ้มรับกับตัวเลขบนหน้าปัดเครื่องชั่งที่หายไปอย่างเต็มที่ แม้ว่ามันจะไม่ถึงเป้าหมายที่ต้องการก็ตาม แต่ภายใน 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาก็เป็น 7 วันที่คุณได้ใช้ชีวิตเพื่อสุขภาพ ซึ่งยังไงร่างกายก็ได้รับผลดีไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่งอย่างเห็นได้ชัดแน่นอน สิ่งดี ๆ เพื่อสุขภาพแบบนี้ ทำต่อไปก็ไม่เสียหายใช่ไหมล่ะ

          ไม่ว่าผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นอย่างไร แต่ก็เชื่อได้ว่า สูตรลดน้ำหนักทันใจภายใน 7 วันนี้ จะทำให้คุณแปลกใจกับตัวเองขนานใหญ่ ว่าเราเองก็สามารถกินอาหารเพื่อสุขภาพได้อย่างไม่ลำบากอะไร และค้นพบว่าเราก็สามารถดำเนินชีวิตเพื่อสุขภาพกับเขาได้เหมือนกัน และทั้งหมดนี้ล่ะค่ะ ที่จะเป็นจุดเริ่มต้นให้คุณมีสุขภาพที่ดี และหุ่นผอมเพรียวอย่างใจได้ตลอดไปเลย

วันพุธที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556

จริงหรอ!!คนสมัยนี้ถึงจะกินน้อยแค่ไหน แต่กลับอ้วนขึ้นได้

มันเป็นเรื่องหรอที่ว่า คนสมัยนี้กินน้อยแต่ก็ยังอ้วน เป็นเรื่องน่าสงสัยจริงๆ เมื่อพบว่าคนในยุคปัจจุบันนี้แม้จะใส่ใจสุขภาพมากขึ้น พยายามเลือกกินแต่ของที่มีประโยชน์จนปริมาณพลังงานในอาหารที่กินแต่ละวัน เฉลี่ยแล้วลดลงถึง 600 แคลอรี่ แต่น้ำหนักตัวโดยเฉลี่ยกลับเพิ่มขึ้นตั้ง 14 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับคนเมื่อ 30 ปีที่แล้ว

เว็บไซต์เดลี่เม ลรายงานผลการศึกษาของสถาบันการศึกษาด้านภาษี ประเทศอังกฤษ (Institute of Fiscal Studies) ที่ได้พบว่า เมื่อเทียบกับสมัย 30 ปีที่แล้ว คนในยุคปัจจุบันบริโภคแคลอรี่จากอาหารในแต่ละวันน้อยลงประมาณ 20% หรือเฉลี่ยราว 600 แคลอรี่ ที่หากคิดเป็นเมนูอาหาร ก็คงจะมาจากกินแฮมเบอร์เกอร์กับเฟรนช์ฟราย ตบท้ายด้วยเบียร์กินเนสส์อีกสัก 5 ลิตร (เยอะนะเนี่ย!... แต่คิดดูสิ ว่าพวกเขาเลิกกินมันได้)

เฉพาะ ชาวอังกฤษก็มีจำนวนไม่น้อย ที่หันมากินซีเรียลเป็นอาหารเช้าแทนของทอดอย่างไส้กรอก เบคอน แฮม ดื่มลาเต้จากนมพร่องมันเนย กินเนื้อปลาแทนเนื้อแดง ฯลฯ แต่ไฉนเมื่อลองเทียบน้ำหนักเฉลี่ยแล้ว คนอายุ 20 ปีในปัจจุบันมีน้ำหนักตัวมากกว่าคนอายุเท่ากันเมื่อ 30 ปีที่แล้วอยู่ตั้ง 7 กิโลกรัม ยิ่งหากเป็นคนอายุ 50 ล่ะก็ น้ำหนักก็มากกว่าแต่เก่าก่อนอยู่ตั้ง 14 กิโลกรัมเลยทีเดียว

ศาสตราจารย์เราชล กริฟฟิธ หนึ่งในทีมวิจัยได้ชี้แจงว่า เหตุที่เป็นเช่นนี้น่าจะเป็นเพราะ แม้คนยุคใหม่จะใส่ใจคุณภาพมากขึ้น แต่ก็เป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นยามที่พวกเขารับประทานอาหารในบ้านเท่านั้น จึงจะเลือกกินหรือไม่กินอะไรก็ได้ตามต้องการ แต่หากเป็นการใช้ชีวิตนอกบ้านที่ต้องรับประทานอาหารข้างนอกเมื่อไหร่ก็มีตัว เลือกอยู่ไม่มากนัก ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่พ้นพวกเค้ก ของทอด และจังค์ฟู้ดต่าง ๆ อยู่ดี นอกจากนี้อาหารหลาย ๆ อย่างในปัจจุบันมีน้ำตาลผสมลงไปปรุงแต่งรสชาติกันมากขึ้น

และที่ สำคัญที่สุดก็คือไลฟ์สไตล์ของคนเราเปลี่ยนไป เรานั่งทำงานกันมากขึ้นและนานขึ้น ไม่ค่อยได้ออกกำลังเดินไปไหน เมื่อกลับบ้านไปก็นั่งจมอยู่ที่หน้าโทรทัศน์หรือหน้าคอมพิวเตอร์อยู่ดี นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญว่าทั้ง ๆ ที่พยายามควบคุมอาหารแล้วแต่ก็ยังอ้วนขึ้นอยู่ดี ควบคุมอาหารแต่ไม่ออกกำลัง ส่วนที่กินเข้าไปแล้วก็ยังคงไปพอกพูนเป็นน้ำหนักส่วนเกินอยู่ดี ซึ่งสอดคล้องกับสถิติน้ำหนักคนอังกฤษวัยผู้ใหญ่ ที่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยคนละ 0.25 กิโลกรัมในทุก ๆ ปีนั่นเอง

โอ้โห รู้อย่างนี้แล้วก็แอบหมดกำลังใจไปครึ่งหนึ่งเลย ว่าแม้ควบคุมอาหารแล้วก็ยังไม่ช่วยเรื่องการลดน้ำหนักเท่า ไหร่ เห็นทีต้องจริงจังกับเรื่องการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ให้ได้ยืดเส้นยืดสายออก กำลังกันมากขึ้นแล้วล่ะ หรือจะลองเปลี่ยนมาลองทานพวก
สมุนไพรลดน้ำหนักดูก็ได้นะมาเริ่มกันตั้งแต่วันนี้เลยดีกว่า